วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กิจกรรมที่ 6

                คำถาม ตามที่นักศึกษาได้เรียนรู้วิธีการสร้างบล็อกและใช้งานแล้ว ซึ่งอาจารย์ให้นักศึกษาส่งงานผ่านทางบล็อกนักศึกษาคิดว่ามีความเหมาะสมที่จะ นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนหรือการบริหารได้อย่างไร ที่จะนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นทุกคน บอกถึงผลดีผลเสียของการใช้งาน นักศึกษามีความสุขในการกระทำหรือไม่
                ตอบ  จากการที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้วิธีการสร้างและใช้งานบล็อก โดยมีการส่งงานผ่านทางบล็อกนั้น ข้าพเจ้าคิดว่ามีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนและการบริหาร เพราะบล็อกที่เรียนนี้สามารถที่จะบันทึกสิ่งต่าง ๆ ลงในบล็อกได้ สามารถตกแต่งบล็อกให้มีความน่าสนใจ  เราสามารถที่จะนำความรู้ต่าง ๆ มาใส่ในบล็อกเพื่อให้ผู้อื่นศึกษาค้นคว้า  และในการใช้บล็อกนั้นยังมีความสะดวกและรวดเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ในการสร้างบล็อกทำให้ผู้เรียนได้ฝึกประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนมีความคล่องตัวในการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์  และการเรียนรู้อย่างนี้ถือเป็นสื่อที่น่าสนใจทันสมัยสามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี  ผู้เรียนได้เรียนรู้และได้ปฏิบัติจริงทำให้มีความรู้เพิ่มขึ้นมีทักษะความชำนาญมากขึ้น
                ข้อดี ของการทำบล็อก
                1. สร้างง่ายไม่เสียเงิน ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับภาษาคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์ ไม่ต้องซื้อหนังสือเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์เล่มโต ซึ่งช่วยลดเวลาที่ใช้ในการสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายในการเช้าพื้นที่บนอินเทอร์เน็ตอีกด้วย
                2. เป็นสื่อที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ  เพื่อเสนอให้ผู้คนสาธารณะได้รับรู้
                3. เป็นเครื่องมือช่วยในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวขององค์กร เป็นต้น
               4. เป็นแหล่งความรู้ใหม่ ๆ ที่ถูกต้องและชัดเจน จากผู้นั้น เนื่องจากผู้เขียน บล็อก มักจะเขียนถึงเรื่องที่ตัวเองถนัด ชอบ และมีความรู้เฉพาะด้าน ๆ ความรู้ลึกในเรื่องนั้น ๆ การค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านในบล็อกต่างๆ จึงทำให้เราค้นพบความรู้ และมีความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น
                5. ผู้ที่สร้างบล็อกสามารถ ปรับแต่งบล็อกให้เป็นรูปแบบที่ตนต้องการได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในเรื่องภาษาคำสั่งของโปรแกรมมากมาย
                ข้อเสียของการทำบล็อก
                1. เจ้าของบล็อกมีอิสระในการนำเสนอบทความ โดยไม่ต้องมีการตรวจสอบจากใครก่อน อาจโพสต์เรื่องที่ไม่เหมาะสมได้ ซึ่งเจ้าของบล็อก ต้องมีกติกาให้ตัวเอง หรือใช้จริยธรรมของแต่บุคคล ความมีเหตุมีผล ความระมัดระวัง รอบคอบในการโพสต์ข้อความต่างๆ
                2. เนื้อหาที่อยู่ในบล็อก หากไม่ใช่ผลงานวิจัย หรือ วิทยานิพนธ์ ที่ทำตามหลักวิชาการ หรือ ตัวบทกฎหมาย ก็อาจมีความน่าเชื่อถือน้อย หากเกิดความผิดพลาดใด ๆ ผู้ที่นำข้อมูลไปใช้อ้างอิง อาจประสบปัญหาได้
                3. เปิดโอกาสให้พวกที่ไม่หวังดี เข้ามาเปิดบล็อก ก่อกวน หรือผู้ที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน มาอยู่ร่วมในชุมชนเดียวกัน เพิ่มโอกาสให้มีการแสดงออกถึงการขัดแย้งอย่างไม่มีเหตุผล สร้างความไม่สามัคคี ทะเลาะกันได้
4. ถ้าระบบอินเตอร์เน็ตขัดข้องการสร้างบล็อกก็จะมีปัญหาเพราะไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย
                สำหรับตัวข้าพเจ้ามีความสุขมากกับการได้ฝึกทำบล็อก ได้รับความรู้และเทคนิคจากอาจารย์ผู้สอนมากมาย เมื่อนำไปฝึกฝนต่อยอดก็ทำให้มีความรู้และทักษะในการทำบล็อกมากขึ้น มีความรู้และเทคนิคใหม่ ๆ มากมายในการตกแต่งบล็อกให้สวยงาม ได้นำข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญใส่ในบล็อก  ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกในห้อง ประกอบกับการเรียนรู้ด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ  การทำบล็อกสร้างความเพลิดเพลินสนุกในการทำ  เพราะได้ใส่ลูกเล่นต่าง ๆ มากมายที่ดึงดูดความสนใจ  และที่สำคัญช่วยคลายเครียดให้แก่เราได้เยอะเลย 

ทัศนศึกษาประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์

ทัศนศึกษาประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์

ทัศนศึกษาประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ on PhotoPeach

กิจกรรมที่ 5 ทัศนศึกษาดูงานประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์

การศึกษาดูงาน   ประเทศมาเลเซีย  สิงคโปร์ 24 - 28 มกราคม 2554
วันจันทร์ ที่ 24 มกราคม 2554

                รถออกจาก ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช มุ่งหน้าสู่ด่านสะเดา จ.สงขลา รับประทานอาหารเช้า บนรถ      (ข้าวมันไก่) ประทับตราหนังสือเดินทาง ที่ด่านชายแดนไทยเข้าสู่ด่านจังโหลน ประเทศมาเลเซียเข้าสู่สถานที่ดูงาน
Sekolah Kebangsaan Kodiag school รับประทานอาหารเที่ยง (ข้าวหมกไก่) ที่ Sekolah Kebangsaan Kodiag school ออกจาก Sekolah Kebangsaan Kodiag school มุ่งหน้าสู่ เกาะปินัง แลกเงิน ณ จุดแปลกเปลี่ยนเงิน รับประทานอาหารเย็น เข้าพักโรงแรม Grand Continental
วันอังคารที่ 25 มกราคม 2554
                รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Grand Continental ออกจากโรงแรม ชมป้อมปืน รับประทานอาหารเที่ยง ที่ร้าน Garden Seafood ชมพระราชวังของประเทศมาเลเซีย ชมอนุสาวรีย์ทหารอาสา ชมเสาธงที่สูงที่สุดในโลก ชมตึกแฝด แวะร้านช็อคโกแลต ออกเดินทางสู่เก็นติ้งเมืองมหานครบนภูเขาสูง นั่งกระเช้าไฟฟ้า สู่ยอดเขาเก็นติ้ง ถึงเก็นติ้ง เข้าสู่ที่พัก โรงแรม First World รับประทานอาหารค่ำ และชมบรรยากาศภายในเก็นติ้ง พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันพุธ ที่ 26 มกราคม 2554
                รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม First World ลงจากเก็นติ้งด้วยรถบัสของเก็นติ้ง ร้านดิวตี้ฟรี ร้านขนม รับประทานอาหารเที่ยง Malaysia Kitchen ชมรัฐสภา มัสยิดสีชมพู รับประทานอาหารค่ำ จากนั้นเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่โยโฮบารูเมืองชายแดนติดกับประเทศสิงคโปร์ ถึงด่านแจ้งหนังสือเดินทางออกจากมาเลเซียเพื่อเข้าสู่ประเทศสิงคโปร์ที่ด่านวู๊ดแลนด์ เข้าสู่ที่พัก Fragance Hotel Imperil
วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2554
                รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารเที่ยวชมบริเวณอ่าวสิงคโปร์ บริเวณเมอร์ไลออน ร้านดิวตี้ฟรี ช้อบปิ้งบริเวณถนออร์ชาร์ด รับประทานอาหารเที่ยง เกาะเซ็นโตซ่า (Sentosa) ชมยูนิเวอร์เซล ชมภาพยนตร์ 4 มิติ ( 4D ) นั่งรถไฟฟ้า ชมบรรยากาศ รับประทานอาหารเย็น ชมน้ำพุเต้นระบำ Song of the sea ล่องเรือชมอ่าวสิงคโปร์ ออกจากสิงคโปร์กลับสู่ประเทศมาเลเซีย เข้าพักโรงแรม Selasa
วันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2554
                รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม Selasa ออกจากโรงแรม รับประทานอาหารเที่ยง ร้านดิวตี้ฟรี เดินทางสู่ประเทศไทย รับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย ถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
ความประทับใจ
ประเทศมาเลเซีย
                จากการศึกษาดูงาน ณ Sekolah Kebangsaan Kodiag school มีการแสดงต้อนรับของนักเรียน และกล่าวต้อนรับ พร้อมนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ของ Sekolah Kebangsaan Kodiag school ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Sekolah Kebangsaan Kodiag school มี 3 อาคาร เปิดสอน 7 ชั้นเรียน เปิดเรียนสัปดาห์ละ 5 วัน มีครู 47 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 31 คน นักเรียนจำนวน 591 คน แต่ละชั้นแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ คือ Excellence Genius และ Smart เริ่มเรียนเวลา 7.30 น. เลิกเรียน 12.00 น. โรงเรียนส่งเริมกิจกรรมกีฬา มีโครงการ 1 นักเรียน 1 กีฬา มีกองทุนค่าใช้จ่ายสำหรับนักเรียน เช่น หนังสือยืมเรียน อาหารกลางวัน เป็นต้น การจัดห้องสำนักงาน และสิ่งแวดล้อมเรียบร้อย เรียบง่าย เน้นความเป็นระเบียบ การจัดห้องเรียนมีความสวยงาม แปลกใหม่ น่าสนใจ อาคารเรียนอนุบาลแยกต่างหาก มีช่วงเวลาพักผ่อนสำหรับนักเรียนอนุบาล ห้องน้ำห้องส้วมสะอาด มีการวางแผนใช้ประโยชน์อาคารสถานที่อย่างลงตัวและคุ้มค่า  นอกจากนี้ข้าพเจ้ายังได้ลงชื่อในสมุดเยี่ยมของห้องสมุดของโรงเรียนอีกด้วย ซึ่วจากการศึกษาดูงานดังกล่าว สามารถนำมาปรับใช้ในการเรียนการสอน เกี่ยวกับการจัดแบ่งกลุ่มนักเรียนตามความสามารถ และจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองตามศักยภาพที่มีอยู่ อีกทั้งการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้แสดงออกความสามารถทางด้านกีฬา ส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี อยู่ในสังคมโรงเรียนอย่างมีความสุข นอกจากนี้สิ่งที่สามารถนำมาเป็นแบบอย่าง คือ การจัดบรรยากาศในห้องเรียนที่สามารถจัดตกแต่งได้สวยงาม แปลกใหม่ กระตุ้นความสนใจของผู้เรียน 
เก็นติ้ง ก่อตั้งโดย ลิ้มโกตง ข้าพเจ้าได้นั่งกระเช้าลอยฟ้า ตื่นเต้นสุดๆ นั่งกระเช้าไฟฟ้า (Genting Skyway) ขึ้นไปบนยอดเขา เก็นติ้ง ซึ่งมีความสูงถึง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ระยะทางของกระเช้า 3.4 กิโลเมตร ซึ่งระหว่างทางจะผ่านผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามเป็นอย่างมาก บนยอดเขาเก็นติ้งมีโรงแรมหรูระดับ       5 ดาวให้เลือกอยู่ 5 แห่งด้วยกัน ซึ่งราคาก็ต่างกันไปตามความหรูหราของโรงแรม ซึ่งคณะดูงานได้พักที่ First World Hotel มี อย่างหนึ่งที่ทุกโรงแรมที่นี่เหมือน กันก็คือ ห้องทุกห้องจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เพราะว่าอากาศที่บนยอดเขาเก็นติ้ง จะเย็นตลอดทั้งปีอยู่แล้ว แค่เปิดหน้าต่างแง้มไว้หน่อยเดียวก็เย็นจับใจแล้ว โรงแรมที่นี่เค้าจะให้เช็คอินตอนบ่าย 3 โมง และ เช็คเอาท์ตอน เที่ยงตรง สำหรับภายในโรงแรม มีส่วนของช็อปปิ้งและร้านอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีร้านอาหารนานาชนิด ตั้งแต่ Fast food ไปจนถึง ภัตตาคารสุดหรู มีสวนสนุก ซึ่งมีให้เลือกเล่นทั้งสวนสนุกในร่มและสวนสนุกกลางแจ้ง เพราะว่ามีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นมากถึง 55 ชนิด ทั้งเครื่องเล่นประเภทหวาดเสียว เช่น Genting Sky Venture, Flying Coaster, Turbo Drop เป็นต้น และ รวมไปถึงเครื่องเล่นประเภทสนุกสนานสำหรับคุณน้องคุณหนูตัวน้อยๆ และที่พลาดไม่ได้ก็เห็นจะเป็นส่วนของ Snow World ซึ่งเป็น Snow World ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย และที่นี่ก็ยังมี บ่อนคาสิโน การเข้าไปในบ่อน ผู้ชายต้องสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงขายาวร้องเท้าหุ้มส้นผู้หญิงแต่งแบบไหนก็ได้
                ประเทศสิงคโปร์ (Singapore)
                สิงคโปร์ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ระดับโลก มีพื้นที่เท่ากับเกาะภูเก็ต ประมาณ 682.7 ตร.กม. แต่สร้างรายได้ประชาชาติสูงสุดติดระดับโลก 117,083 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลสิงคโปร์เน้นสร้าง คุณภาพคนโดยเน้นคุณภาพการศึกษาและความรู้เป็น พื้นฐานให้คนสิงคโปร์ทั้งชายและหญิงเป็นคน เก่งแต่ก็ต้องประสบปัญหาด้านสังคม เมื่อพบว่าอัตราการเติบโตของประชากรทั้งหญิงและชาย ลดลง ไม่ยอมแต่งงานยินดีที่จะอยู่เป็น โสดและทำงานเลี้ยงตัวเองอย่างเท่าเทียมกัน  ภาษา ภาษาอังกฤษ มาเลย์ จีนกลางเป็นภาษาราชการ แต่ร้องเพลงชาติภาษามาเลย์
                สภาพอากาศ สิงคโปร์มีอากาศอบอุ่นชื้นตลอดทั้งปี มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 24-31 องศาเซลเซียส ชุดที่สวมใส่ประจำวันควรเป็นเสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนที่เบาสบายและทำจากเส้นใย ธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย
เงินตรา สกุลดอลลาร์สิงคโปร์ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 24.5 บาท (26 มกราคม 2554)
น้ำดื่ม สามารถดื่มน้ำจากก๊อกน้ำประปาในสิงคโปร์ได้อย่างปลอดภัย 
ห้าม เด็ดขาด สิงคโปร์มีกฎหมายเคร่งครัดในเรื่องระเบียบวินัย เช่น การถ่มน้ำลาย การทิ้งขยะ กฎจราจร การข้ามถนน การสูบบุหรี่ ผู้ฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นเงิน 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ ยกเว้นสถานที่เที่ยวกลางคืน ที่สำคัญห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง
ไฟฟ้าและปลั๊กไฟ ไฟฟ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ 220-240 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ ใช้ปลั๊กไฟแบบ 3 ขาสี่เหลี่ยมจัตุรัส
                สถานที่ท่องเที่ยวที่ ข้าพเจ้าได้ไปคือ บริเวณ Marina Bay, ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมอร์ไลออน (Merlion) และเกาะเซ็นโตซ่า ยูนิเวอร์เซล ได้ชมภาพยนตร์ 4 มิติ (4D) เรื่อง“Pirates” ภาพยนตร์แนวผจญภัยของเหล่าลูกเรือโจรสลัด และกัปตันลัคกี้ ในการออกค้นหาสมบัติล้ำค่าที่ถูกฝังไว้ การชมภาพยนตร์ต้องสวมแว่นตาพิเศษที่โรงหนังจัดให้ ขณะชมเราจะรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนั้น ได้สัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สนุกสนานและประทับใจมาก นอกจากนี้ยังได้ชมน้ำพุเต้นระบำ song of the sea สวยงาม ตื่นตา ตื่นใจมาก ๆ
                กล่าวโดยสรุปแล้วในการศึกษาดูงานของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ข้าพเจ้ามีความประทับใจมากเพราะได้รับความรู้ต่าง ๆ  มากมาย  ได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียบประเพณีของประเทศเพื่อนบ้านว่าเขาดำเนินชีวิตกันอย่างไรมีลักษณะภูมิประเทศ  ภูมิอากาศเป็นอย่างไร  มีกฎหมายเป็นอย่างไร  อาชีพหลักคืออะไรบ้าง  ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินในประเทศของเขา  และได้ถ่ายรูปกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

HAPPY NEW YEAR 2011


สวัสดี ปีใหม่ ขอให้สุข
หมดสิ้นทุกข์ กายจิต มิผิดผัน
อายุมั่น ขวัญยืน สี่หมื่นวัน
มีผิวพรรณ ผ่องนวล เย้ายวนชม


ปรารถนา เงินทอง กองท่วมฟ้า
ทำการค้า ร่ำรวย ไปสวยสม
มียศศักดิ์ รักใคร ใคร่ภิรมย์
ขอให้กลม เกลียวกัน และมั่นคง


ถ้าผู้ใด ใจว่าง เรื่องทางรัก
ให้พบพักตร์ กันที อย่ามีหลง
หากอกหัก หนักไป ครวญใคร่ปลง
ขอท่านจง โชคดี ทั้งปีเทอญ

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 4 ข้อมูลโรงเรียนวัดควนเมา

ข้อมูลโรงเรียนวัดควนเมา  สพป. ตรัง  เขต 2
1.  บริบทโรงเรียน  จุดเด่น  จุดด้อย  โอกาสที่จะพัฒนา
1)  ชื่อสถานศึกษา    โรงเรียนวัดควนเมา  ที่ตั้ง  เลขที่  11   หมู่ที่  2  ตำบลควนเมา   อำเภอรัษฎา  จังหวัดตรัง  รหัสไปรษณีย์  92160 โทรศัพท์  075 260185    สังกัด   สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง      เขต  2   สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  กระทรวงศึกษาธิการ
                      2)  ระดับชั้นเรียนที่เปิดสอน   เปิดทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล  1  ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3
               3)  มีเขตพื้นที่บริการ   5   หมู่บ้าน  ได้แก่   หมู่ที่  1   , หมู่ที่  2  หมู่ที่  7  หมู่ที่   12  และหมู่ที่  15  ตำบลควนเมา  อำเภอรัษฎา  จังหวัดตรัง
               4)  จุดเด่น  จุดด้วย  โอกาสที่จะพัฒนา
                            จุดเด่น  คือ  โรงเรียนมีการบริหารจัดการศึกษาเป็นระบบที่ชัดเจน  บุคลากรทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและสามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการ  มาตรฐาน  และข้อกำหนด  ได้ตามมาตรฐานสากลจนเกิดความคล่องตัว    ผู้ปกครอง  นักเรียน  ชุมชน  มีความพึงพอใจและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการศึกษา  พึงพอใจและให้การอนุมัติให้โรงเรียนดำเนินการจัดการศึกษาอย่างมีส่วนร่วม
                          จุดด้อย  คือ  คุณภาพผู้เรียนยังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งจะต้องปรับปรุงกันต่อไป
                          โอกาสที่จะพัฒนา  คือ  ต้องพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้ได้ตามมาตรฐาน  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น  โดยการสอนซ่อมเสริม  และการสอนติวข้อสอบ  Las , O-Net  ในทุกวันเสาร์
2.  ระบบข้อมูลสถานศึกษา 
                1)  อักษรย่อ   “  ว.ค.ม.    คำขวัญ    “ ตรงต่อเวลา  รู้หน้าที่  มีวินัย  ใฝ่คุณธรรม        
สีประจำโรงเรียน    เขียว  -  เหลือง   สีเขียว   หมายถึง  ความสมบูรณ์  สีเหลือง  หมายถึง  ความจริงใจเครื่องหมายประจำโรงเรียน  ใช้เครื่องหมายเหมือนกับของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  แต่เปลี่ยนข้อความใต้เครื่องหมายเป็น  “ โรงเรียนวัดควนเมา  สพป.ตรัง  เขต  2   
                            2)  ข้อมูลนักเรียน  ( ข้อมูล   วันที่  10  มิถุนายน  พ.ศ. 2553 )                 
                  จำนวนนักเรียนในเขตพื้นที่บริการทั้งหมด    304    คน  ชาย  169  คน  หญิง  135  คน
               3)  ข้อมูลบุคลากร  มีผู้บริหาร  1  คน  คือ  นายประภาส  นวลจันทร์  มีคณะครู  17  คน  เจ้าหน้าที่ธุรการ  1  คน   และนักการ  1  คน 
                4)   การบริหารจัดการสถานศึกษา
                                 -  งานวิชาการ
                            งานวิชาการมีการบริหารที่ดี  คือ  มีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา  การพัฒนากระบวนการเรียนรู้  การวัดผลประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียน การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา  การพัฒนาสื่อ  นวัตกรรม  และเทคโนโลยีทางการศึกษา  การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ การนิเทศการศึกษา การแนะแนวการศึกษา  การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา  การส่งเสริมความรู้ด้านวิชาการแก่ชุมชน  การประสานงานความร่วมมือกับชุมชน            
-  งานบริหารงบประมาณ  
                          งานงบประมาณมีการบริหารที่ดี คือ มีการจัดทำและเสนอของบประมาณการจัดสรร    งบประมาณ การบริหารการเงิน  การบริหารบัญชี  การรับพัสดุ และสินทรัพย์  การระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา การตรวจสอบติดตามประเมินผลและรายงานผลการใช้เงินและผลการดำเนินงาน
                                -  งานบริหารบุคคล
                          งานบริหารบุคคลมีการบริหารที่ดี  คือ  มีการวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง   การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง  การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ  วินัยและการรักษาวินัย  การออกจากราชการ           
                                -   งานบริหารทั่วไป
                          งานบริหารทั่วไปมีการบริหารที่ดี  คือ  มีการดำเนินงานธุรการ งานเลขานุการ การประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  งานพัฒนาระบบและเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศ   การประสานและการพัฒนาเครือข่ายการศึกษา การจัดระบบบริหารและพัฒนาองค์กร งานเทคโนโลยีสารสนเทศ  การส่งเสริม     ด้านวิชาการ   งบประมาณและบริหารทั่วไป   การดูแลอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อม   การจัดทำสำมะโนนักเรียน  การรับนักเรียน  การส่งเสริมและประสานงานการศึกษาในระบบ นอกระบบ และ ตามอัธยาศัย การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา  การส่งเสริมงานกิจการนักเรียน การประชาสัมพันธ์งานการศึกษา การส่งเสริมสนับสนุนและประสานงานการศึกษาของบุคคล  ชุมชน  องค์กร  หน่วยงานสถาบัน  สังคมอื่นที่จัดการศึกษา  ฯลฯ
5โรงเรียนยึดหลักการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม  ได้กำหนดปรัชญา  วิสัยทัศน์  พันธกิจ และเป้าประสงค์การพัฒนาไว้ดังต่อไปนี้
ปรัชญา     ความรู้   คู่  คุณธรรม
วิสัยทัศน์  โรงเรียนวัดควนเมาเป็นหน่วยงานการศึกษา จัดการ ส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนา ให้ผู้เรียน มีคุณธรรม มีวิถีชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง มีสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย  และมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา 
พันธกิจ
1.  จัด  ส่งเสริม  สนับสนุน  และพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีคุณธรรม  มีความสำนึกในความเป็นชาติไทย  และมีวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
2.  จัดหา  และพัฒนาสื่อ  เทคโนโลยีให้เพียงพอ  สนับสนุนและพัฒนาครูให้ใช้สื่อ  เพื่อการเรียนการสอน
เป้าประสงค์
1.    ด้านสิทธิและโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
1.1   เด็กอายุ   4  -  16  ปี  ได้รับการเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต
1.2   นักเรียนทุกคนได้รับโอกาสในการศึกษาขั้นพื้นฐาน  12  ปี  อย่างทั่วถึงตามศักยภาพ
2.     ด้านการพัฒนาการจัดการและและพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้
สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการเชิงระบบและจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมมุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษานักเรียนมีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาจัดหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีการจัดสภาพแวดล้อมและการบริหารที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติ
3.     ด้านการสเริมสร้างความเข้มแข็งของสถานศึกษา
สถานศึกษามีการร่วมมือกันระหว่างบ้าน องค์กรทางศาสนา สถาบันทางวิชาการ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อพัฒนาวิธีการเรียนรู้ในชุมชนและการดูแลช่วยเหลือนักเรียนสถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
4.     ด้านการพัฒนานักเรียนให้เต็มศักยภาพมุ่งสู่มาตรฐานสากล
4.1      นักเรียนได้รับ การพัฒนาศักยภาพด้านภาษาไทย  คณิตศาสตร์   วิทยาศาสตร์       สังคมศึกษา  และภาษาอังกฤษ  ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามหลักสูตร
4.2    นักเรียนทุกคนเป็นคนดี   เก่ง  และมีความสุข
4.3    นักเรียนมีความรู้และทักษะการใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐานและอินเตอร์เน็ต
            กลยุทธ์สถานศึกษา
1.     พัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลที่มีคุณธรรม  มีความสำนึกในความเป็นชาติไทย  และมีวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
2.    เพิ่มจำนวนนักเรียนในทุกระดับ  ลดอัตราการออกกลางคันด้วยวิธีการที่หลากหลาย
3.    ยกระดับคุณภาพผู้เรียน  สู่มาตรฐานการศึกษา
4.      ยกระดับคุณภาพ  ครู  และบุคลากรทางการศึกษาสู่มาตรฐานวิชาชีพ   ส่งเสริมการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้
5.     ยกระดับคุณภาพสถานศึกษาและการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา
6.     เร่งรัดพัฒนาความพร้อมในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  เพื่อการเรียนรู้ในการบริหารจัดการ
7.    พัฒนาระบบบริหารจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ  โดยการระดมทรัพยากรและการมีส่วนร่วมจาก   ทุกภาคส่วนของสังคมบนหลักธรรมมาภิบาล
            แนวทางการบริหารจัดการโรงเรียน
                      โรงเรียนได้บริหารและจัดการศึกษา ประสบความสำเร็จโรงเรียนยึดหลักการแนวคิด  และทฤษฎีทางการบริหารดังนี้
1.    หลักการบริหารแบบมีส่วนร่วม
2.     หลักการบริหารแบบธรรมมาภิบาล
3.     หลักการบริหารโรงเรียนนิติบุคคล
4.     หลักการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM)
5.     ยึดกลยุทธ์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ปี  2553
6.     ยึดกลยุทธ์โรงเรียนในฝัน
7.     ยึดมาตรฐานการศึกษาชาติ  18   มาตรฐาน
3.  นวัตกรรมที่จะใช้ในการเรียนการสอนสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
        -  ผลิตสื่อการเรียนรู้คณิตศาสตร์โปรแกรมสำเร็จรูป  ( สร้างจากโปรแกรม  GSP )  เช่น  การสะท้อน  การหมุน  การเลื่อนขนาน  การหาพื้นที่  การหาปริมาตร  การสร้างสรรค์งานศิลปะจากโปรแกรม  GSP  ซื่งนวัตกรรมนี้ทำให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจวิชาคณิตศาสตร์ยิ่งขึ้ง  เนื่องจากจะมองคณิตศาสตร์จากนามธรรมเป็นรูปธรรมซึ่งเพิ่มความรู้ความเข้าใจแก่นักเรียน

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กิจกรรมที่ 3 สรุปการใช้โปรแกรม SPSS

สรุปการใช้โปรแกรม SPSS
ขั้นตอนการใช้โปรแกรม SPSS FOR WINDOWS
     การเปิดใช้โปรแกรม® SPSS for Windows ® All Programs ®คลิก Start  SPSS 11.5
for Windows  หรือ Double Click ไอคอนบนหน้าจอ Windows
เมื่อเข้ามาสู่ด้านหน้าของโปรแกรม SPSS ให้ดำเนินการดังนี้
  1. กำหนดค่าตัวแปรใน variable view
     1.1 ช่องเซลล์ name พิมพ์ชื่อ ตัวแปรแรก ก็คือ เพศ ส่วนช่องเซลล์ต่อมาพิมพ์ข้อคำถามตามแบบสอบถามที่เราจะวิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่ข้อ 1ไปเรื่อยๆจนถึงข้อสุดท้ายโดยใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนข้อในแต่ละข้อ เช่นข้อที่ 1 แทน a1 ข้อที่ 2 แทน a2 ไปเรื่อยๆจนถึงข้อสุดท้าย
     1.2 ช่องเซลล์ width ให้ระบุตัวเลขความกว้างที่ต้องการ
     1.3 ช่องเซลล์ decimals เลือกจุดทศนิยมที่ต้องการส่วนใหญ่ที่ใช้คือทศนิยม 2 ตำแหน่ง
     1.4 ช่องเซลล์ value ให้ระบุค่าของตัวแปรโดยใช้ตัวเลขแทน เช่น เพศมีอยู่ 2 เพศ ให้ 1 แทน เพศชาย และ 2 แทนเพศหญิง ส่วนข้อคำถามให้ระบุตามค่าที่ได้กำหนดไว้ในแบบสอบถาม คือ 1 แทน น้อยที่สุด 2 แทน น้อย 3 แทน ปานกลาง 4 แทน มาก และ 5 แทน มากที่สุด เพื่อง่ายในการคีย์ข้อมูลลงไปวิเคราะห์
  2. พิมพ์ข้อมูลใส่ใน data view ตามลำดับข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ทั้งหมด (20 ชุด) โดยที่ข้อมูลที่คีย์ลงไปนั้นตัวเลขที่ใส่ลงไปต้องเป็นเลข 1-5 เท่านั้น ถ้ามีตัวเลขอื่นแสดงว่าคีย์ลงไปผิด จะต้องคีย์ลงไปใหม่เพราะตอนเรากำหนดค่าตัวแปรนั้นเรากำหนดตัวเลขเป็น 1-5 เท่านั้น
  3. เมื่อคีย์ข้อมูลลงไปครบทุกฉบับแล้ว ทำการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้
      sum [a1,a2,a3,a4]/4 คลิก ok
® compute ®-เลือก transform  เป็นการวิเคราะห์ผลรวม ของข้อคำถามในแต่ละด้าน  descriptive®-เลือก analyze  frequencies คลิกเลือกหัวข้อเพศ a1,a2,...d3®statistic 
แล้วคลิก ok จะแสดงประมวลผลออกมาในรูปความถี่ ค่าเฉลี่ย
descriptive®-เลือก analyze  descriptive statistic จะแสดงประมวลผลออกมาในรูปของ ค่าเฉลี่ย®statistic  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสูงสุด และค่าต่ำสุด
    - การบันทึกแฟ้มข้อมูล เมื่อป้อนข้อมูลแล้ว สามารถบันทึกข้อมูลที่ป้อนเก็บไว้ใช้ โดยเลือก เมนู File เลือก Save as เลือก Drive ที่ต้องการ แล้วตั้งชื่อแฟ้มข้อมูล คลิก OK โปรแกรมจะบันทึกไฟล์ ซึ่งมีนามสกุล .sav ให้โดยอัตโนมัติ
    - การปิดโปรแกรม เลือกเมนู Flie เลือก Exit โปรแกรมก็จะถูกปิดลง

ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามของอาจารย์
1.  ตอนที่  1  ผู้ตอบแบบสอบถาม  เพศชาย 12  คน  ร้อยละ  60  เพศหญิง  8  คน  ร้อยละ  40
2.  ตอนที่  2  แบบสอบถาม
         ด้านกระบวนการ / ขั้นตอนการให้บริการ   ระดับความพึงพอใจ  ค่าเฉลี่ย  3.74  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  .38
         ด้านวิทยากรผู้ให้บริการ   ระดับความพึงพอใจ    ค่าเฉลี่ย  3.85  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  .43   
         ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก  ระดับความพึงพอใจ    ค่าเฉลี่ย  3.68  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  .32 
         ด้านคุณภาพการให้บริการ  ระดับความพึงพอใจ    ค่าเฉลี่ย  3.83  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  .28 
         ผลรวมของทุกด้าน  ระดับความพึงพอใจ    ค่าเฉลี่ย  3.77  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  .17